วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555


ทองหยอด

๏ ทองหยอดทอดสนิททองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบังแต่ลำพังสองต่อสอง

ส่วนผสม
  • ไข่เป็ด 20 ฟอง
  • น้ำตาลทรายขาว 8 ถ้วย
  • น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
วิธีทำ
  1. ต่อยไข่แยกไข่ขาวและไข่แดง รีดไข่แดงออกจากเยื่อ ตีให้ขึ้นฟูมากๆ
  2. ผสมน้ำตาล 3 ถ้วย กับน้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วย ตั้งไฟพอน้ำตาลละลายยกลง กรองแล้วทิ้งไว้ให้เย็น เป็นน้ำเชื่อมใสไว้สำหรับแช่ทองหยอด
  3. ผสมน้ำตาล 5 ถ้วย กับน้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วย ตั้งไฟพอน้ำตาลละลายยกลง กรองแล้วตั้งไฟใหม่จนเดือดพล่าน เป็นน้ำเชื่อมข้นไว้สำหรับหยอดทองหยอด
  4. แบ่งไข่แดงมาผสมกับแป้งทีละ 1 ถ้วย ต่อแป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย คนให้เข้ากัน หยอดลงในน้ำเชื่อมข้นที่เดือดพล่าน โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง ขยุ้มแป้งขึ้นมา แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือรูดส่วนผสมไปที่ปลายนิ้ว สะบัดลงในน้ำเชื่อม หยอดจนหมด รอจนสุกแล้วตักขึ้นแช่ในน้ำเชื่อมใส เมื่อทองหยอดเย็นดีตักขึ้น

รังไร

๏ รังไรโรยด้วยแป้งเหมือนนกแกล้วทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวงยังยินดีด้วยมีรัง

ส่วนผสม
  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย
  • หัวกะทิ ¼ ถ้วย
ส่วนผสมน้ำกะทิ
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
  • น้ำลอยดอกมะลิ ½ ถ้วย
  • กะทิ ½ ถ้วย
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • งาขาวคั่ว ¼ ถ้วย
วิธีทำ
  1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อยๆ เทน้ำลอยดอกมะลิลงนวดให้เข้ากัน เทใส่กระทะทอง ตั้งไฟกวนไฟอ่อนๆ จนเหนียวข้น จึงยกลงให้คลายความร้อน ใช้มือแตะหัวกะทินวดแป้งเบาๆ ให้เข้ากันดี
  2. แบ่งแป้งเป็นก้อนย่อมๆ นำแป้งลงกดในพิมพ์สำหรับอัดเส้น ทาพิมพ์ด้วยหัวกะทิบางๆ แล้วใช้มือกดออกมาเป็นเส้นๆ ให้รวมกันเป็นก้อนๆ พอดีคำ ตักเรียงในลังถึงนึ่งประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วจัดเรียงใส่จาน
  3. เตรียมน้ำกะทิโดย ผสมน้ำตาลทรายและน้ำดอกมะลิลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย ใส่กะทิ เกลือป่น คนให้เข้ากัน พอเดือดยกลง
  4. เวลารับประทาน จัดขนมใส่จาน ราดด้วยน้ำกะทิ โรยหน้าด้วยงาคั่ว

ขนมผิง


๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อนเพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกลเมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง

ส่วนผสม
  • แป้งมัน 3 ถ้วย
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ใช้เฉพาะไข่แดง 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช
  • เทียนอบ
วิธีทำ
  1. ใส่น้ำตาล หัวกะทิ ลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนเป็นยางมะตูม ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่ไข่คนให้เข้ากัน ร่อนแป้งมันลงผสม นวดให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง
  2. นำแป้งที่หมักแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เรียงในถาดที่ทาน้ำมันบางๆ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 360 ฟาเรนไฮต์ ประมาณ 10 นาที หรือจนขนมสุกเป็นสีน้ำตาลอ่อน แซะออกทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่ขวดโหล อบด้วยควันเทียน

ทองหยิบ

๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัดสามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดมก้มหน้าเมินเขินขวยใจ

ส่วนผสม
  • ไข่เป็ด 20 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 6 ถ้วย
  • น้ำลอยดอกมะลิ 10 ถ้วย
วิธีทำ
  1. ต่อยไข่แยกไข่ขาวและไข่แดง รีดไข่แดงออกจากเยื่อ ตีไข่แดงให้ขึ้นฟูเล็กน้อย อย่าตีให้ขึ้นมากเกินไปเพราะจะทำให้นิ่มเกินไป เวลาจีบจะจีบไม่ได้
  2. ผสมน้ำตาลกับน้ำลอยดอกมะลิใส่กระทะทอง ตั้งไฟพอน้ำตาลละลายยกลง กรองแล้วตั้งไฟใหม่จนเดือด
  3. ปิดไฟหรือยกน้ำเชื่อมลงจากเตาให้น้ำเชื่อมนิ่ง ตักไข่แดงหยอดลงน้ำเชื่อมให้เป็นแผ่นกลมเล็กประมาณจีบลงถ้วยตะไลได้ หยอดจนเต็มกระทะ
  4. เปิดไฟหรือยกน้ำเชื่อมขึ้นตั้งไฟให้น้ำเชื่อมเดือด ลดไฟลง คอยตักน้ำเชื่อมราดพอขนมสุกฟู ตักวางบนถาดอย่าให้ทับกัน พออุ่นหยิบจับจีบ 3-5 จีบ ใส่ถ้วยตะไล เมื่อเย็นสนิทดีจึงแคะออกจากถ้วย
ขนมเทียน

๏ รสรักยักลำนำ ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม


ส่วนผสม
  • แป้งข้าวเหนียว 5 ถ้วย
  • น้ำดอกมะลิ 2½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1½ ถ้วย
  • มะพร้าวขูด 2 ถ้วย
  • งาขาวคั่วให้เหลืองนวล 1½ ถ้วย
  • ใบตองตานี
วิธีทำ
  1. ใบตองตานีเช็ดให้สะอาดทั้งสองด้าน เจียนให้กลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 นิ้ว ลนไฟพออ่อนตัว พับสี่ เตรียมไว้เท่าจำนวนไส้
  2. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำดอกมะลิ ½ ถ้วย ใส่กระทะทองตั้งไฟ พอน้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบางลงกระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวพอน้ำตาลเหนียว ใส่มะพร้าว กวนจนเหนียว ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ½ นิ้ว ใสภาชนะที่มีฝาปิดสนิท อบด้วยควันเทียนไว้ค้างคืน
  3. นวดแป้งกับน้ำดอกมะลิ 2 ถ้วย จนเข้ากันดี นำไปนึ่งไฟแรงจนแป้งสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
  4. หยิบแป้งที่นึ่งสุกแล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอคำ แผ่แป้งให้แบน ใส่ไส้ลงไปแล้วหุ้มให้มิด คลุกลงในงาขาวคั่ว ห่อด้วยใบตองที่เตรียมไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมปิรามิด



ขนมจีบ

๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่องามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกรายชายพกจีบกลีบแนบเนียน

ส่วนผสม
  • เนื้อกุ้งสับละเอียด 200 กรัม
  • เนื้อหมูบด 250 กรัม
  • มันหมูแข็งบด 50 กรัม
  • เกลือป่น 1½ ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  • แป้งมัน 1½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  • แผ่นเกี๊ยว
  • กระเทียมเจียว
  • ซอสเปรี้ยว (จิ๊กโฉ่)
วิธีทำ
  1. นวดกุ้งกับเกลือให้เข้ากันจนเหนียว เมื่อเหนียวเนื้อกุ้งจะขุ่น
  2. เติมเนื้อหมูบด มันหมูแข็งบด น้ำตาลทราย พริกไทยป่น แป้งมัน และน้ำมันงา ผสมให้เข้ากัน นวดจนส่วนผสมเหนียว นำส่วนผสมไปแช่ให้เย็น
  3. ตักส่วนผสมวางลงบนแผนเกี๊ยว ห่อจับจีบให้สวยงาม ตัดมุมแผ่นเกี๊ยวออกให้เสมอกัน เรียงขนมจีบลงในลังถึง นึ่งไฟปานกลางประมาณ 10 นาทีพอสุก ยกลง
  4. จัดใส่จานพรมด้วยกระเทียมเจียว เสิร์ฟรับประทานกับซอสเปรี้ยว

ลุดตี่

๏ ลุดตี่นี้น่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
  

                

มัศกอด

๏ มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง
ส่วนผสม
  • มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม คั้นแล้วเคี่ยวให้เป็นขี้โล้ ¼ ถ้วย
  • น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 3 ถ้วย
  • แป้งเค้ก 2 ถ้วย
  • ไข่ขาวสำหรับแต่งหน้า 2 ฟอง
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายป่นละเอียด 1 ถ้วย
  • สีผสมอาหารสีชมพู ฟ้า เขียว เหลือง
วิธีทำ
  1. ตีไข่ให้ขึ้น แล้วทยอยใส่น้ำตาลลงไปขณะตีจนขึ้นฟู ใส่แป้งลงในไข่ที่ตีขึ้นแล้ว โดยใช้ไม้ตีไข่ คนตะล่อมไปทางเดียวกันให้เข้ากัน อย่าคนมากนักขนมจะยุบ
  2. ทาพิมพ์ด้วยน้ำมันขี้โล้ให้ทั่ว อบพิมพ์ให้ร้อน แล้วตักแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไป 3/4 พิมพ์ นำไปเข้าเตาอบ อบทั้งไฟบนและล่าง ใช้ไฟอ่อนความร้อนประมาณ 250-300 องศาฟาเรนไฮด์ อบประมาณ 15-20 นาที คอยสังเกตให้ขนมพอเป็นสีนวล นำออกจากเตาแล้วรีบแกะออกจากพิมพ์ ถ้าทิ้งไว้ให้เย็นจะแคะออกจากพิมพ์ยาก
  3. ตีไข่ขาวให้ฟู ใส่น้ำตาลทรายป่นลงไป ตีเรื่อยๆ จนขึ้นฟูแข็ง แบ่งใส่สีต่างๆ ตามต้องการ นำไปทาหน้าขนมจนทั่ว อบเฉพาะไฟบน 3-5 นาทีหรือจนกว่าหน้าขนมจะเป็นสีนวล จึงใช้ได้  ถ้าจะรับประทานกับมะพร้าวทึนทึก ต้องขูดมะพร้าวหยาบๆ แล้วโรยลงไปบนไข่ขาวที่ทาหน้าขนม แล้วจึงนำไปอบพอเหลืองนวลเช่นกัน

ลำเจียก

๏ ลำเจียกชื่อขนมนึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดยโหยไห้หาบุหงางาม

ส่วนผสม
  • แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • หัวกะทิ ½ ถ้วย
  • มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
  • น้ำตาลมะพร้าว 1½ ถ้วย
วิธีทำ
  1. นำน้ำตาลมะพร้าวใส่กระทะทองผสมน้ำเล็กน้อย ตั้งไฟให้ละลาย ใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวให้เหนียว ยกขึ้นพักไว้สำหรับทำไส้
  2. นวดแป้งข้าวเหนียวกับหัวกะทิ นำใส่แร่งร่อนในกระทะก้นแบน ใช้ไฟอ่อน โรยให้แป้งบางเสมอกัน นำไส้ที่อบไว้วางตรงกลาง ใช้เหล็กที่ตัดขนมแซะแป้งตลบเข้าห่อไส้ไว้ เรียงใส่โถหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท อบด้วยควันเทียนให้หอม

ซ่าหริ่ม

๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำแทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือได้เสพหริ่มพิมเสนโรย

ส่วนผสม
  • แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย
  • น้ำดอกมะลิ 8 ถ้วย
  • น้ำใบเตยข้นๆ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำแข็งทุบละเอียด
วิธีทำ
  1. ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำดอกมะลิ 5 ถ้วย น้ำใบเตย 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน อย่าให้แป้งเป็นเม็ด ใส่กระทะทอง ตั้งไฟกวนไปทางเดียวกัน อย่าให้แป้งติดก้นกระทะ กวนจนแป้งสุกใส
  2. ตักแป้งที่สุกแล้ว ใส่ลงในกระป๋องที่เจาะรูเล็กๆ หลายรู ยกกระป๋องให้สูงจากอ่างน้ำเย็น แล้วกดแป้งเป็นระยะ ให้แป้งลอดรูออกมาเป็นเส้นๆ ลงอ่างน้ำเย็น คอยถ่ายน้ำให้เย็นอยู่เสมอ เสร็จแล้วเทเส้นซ่าหริ่มใส่ผ้าขาวบาง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  3. ละลายน้ำตาลทรายและน้ำดอกมะลิอย่างละ 3 ถ้วย ลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ใส่กะทิ คนให้เข้ากัน พอเดือดยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
  4. เวลารับประทาน ตักซ่าหริ่มใส่ถ้วย ใส่น้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบละเอียด

ข้าวเหนียวสังขยา

๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลงแจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
ส่วนผสม
  • ข้าวเหนียว 4 ถ้วย
  • กะทิ 2 ถ้วย
  • เกลือป่น 4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
ส่วนผสมสังขยา
  • ไข่เป็ด 4 ฟอง
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
วิธีทำ
  1. แช่ข้าวเหนียวใส่น้ำพอท่วม ทิ้งไว้ค้างคืนหรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมง สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ใส่หวดหรือลังถึงปูด้วยผ้าขาวบาง  นึ่งประมาณครึ่งชั่งโมง
  2. ผสมกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทราย ตั้งไฟจนน้ำตาลและเกลือละลาย ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ภาชนะไว้
  3. พอข้าวเหนียวสุก ยกลงเทใส่กะละมัง ค่อยๆ เทกะทิลงข้าวเหนียว คนด้วยไม้พายให้ข้าวเหนียวกับกะทิเข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้จนระอุดี
  4. ผสมกะทิ น้ำตาลและไข่เป็ด ตีให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางลงถาดสำหรับนึ่ง นึ่งประมาณ 20-30 นาที จนสุก
  5. จัดข้าวเหนียวลงจาน ตักสังขยาใส่หน้า เสิร์ฟรับประทาน

เห่ชมเครื่องหวาน

๏ สังขยาหน้าไข่คุ้นเคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสีโศกย้อม
เป็นนัยนำวาทีสมรแม่ มาแม
แถลงว่าโศกเสมอพ้อมเพียบแอ้อกอร ๚
๏ สังขยา หน้าตั้งไข่ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลงแจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
๏ ซ่าหริ่ม ลิ้มหวานล้ำแทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
๏ ลำเจียก ชื่อขนมนึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดยโหยไห้หาบุหงางาม
๏ มัศกอด กอดอย่างไรน่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความขนมนามนี้ยังแคลง
๏ ลุดตี่ นี้น่าชมแผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกงแคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
๏ ขนมจีบ เจ้าจีบห่องามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกรายชายพกจีบกลีบแนบเนียน
๏ รสรักยักลำนำประดิษฐ์ทำ ขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียนเทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
๏ ทองหยิบ ทิพย์เทียมทัดสามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดมก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
๏ ขนมผิง ผิงผ่าวร้อนเพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกลเมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
๏ รังไร โรยด้วยแป้งเหมือนนกแกล้วทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวงยังยินดีด้วยมีรัง
๏ ทองหยอด ทอดสนิททองม้วน มิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบังแต่ลำพังสองต่อสอง
๏ งามจริง จ่ามงกุฏใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
เรียมร่ำคำนึงปองสะอิ้งน้องนั้นเคยยล
๏ บัวลอย เล่ห์บัวงามคิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคลสถนนุชดุจประทุม
๏ ช่อม่วง เหมาะมีรสหอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไลคลุมหุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
๏ ฝอยทอง เป็นยองใยเหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามเยาวมาลย์เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ